วันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2560


MY Lip Talk series
pair : Myungsoo x Sungyeol
tag : #MYLiptalk

Myungyeol Lip Talk series [sf series]

5th color : M·A·C Heroine






เฮโรอีน หนึ่งในสารเสพชนิดที่เรียกได้ว่ามีความรุนแรงเป็นอย่างมาก สามารถเปลี่ยนความเจ็บปวดเจียนตายให้กลายเป็นความสบายได้เพียงเสพเข้าไปเพียงนิดเดียว ขึ้นชื่อว่าสารเสพติด แน่นอนว่า เพียงแค่ ‘เสพ’ เราก็ ‘ติด’ มันจนยากที่จะเลิก แล้วถ้าเราลองเปรียบให้คนคนหนึ่งเป็นเหมือนเฮโรอีนที่ ยิ่ง ‘เสพ’ ก็ยิ่ง ‘ติด’ จนยากที่จะถอนตัว แถมยังสามารถเปลี่ยนความทุกข์ให้กลายเป็นความสุขได้ในชั่วพริบตา

คุณจะเลือกเสพมันไหม?





มือหนากำลังพับเสื้อผ้าทั้งชุดนอนและชุดไปรเวทอย่างเบามือก่อนจะค่อยๆจัดมันใส่กระเป๋าเดินทางสีดำใบใหญ่ โดยที่มีคนรักค่อยช่วยเช็คของที่เขาจะต้องเอาไปให้อยู่ข้างๆ เสียงหวานใสค่อยอ่านลิสต์รายการบนกระดาษพร้อมทั้งช่วยหยิบสิ่งของที่ยังขาดอยู่มาใส่ให้

“แชมพู ครีมนวด สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ครีมบำรุงหน้าโลชั่น มาส์ก อาฟเตอร์เชฟ ที่โกนหนวด ยาประจำตัว โอเค ครบแล้วมยองซู”

อีซองยอลช่วยมยองซูจัดพวกเสื้อผ้าให้เข้าที่เพราะนักแสดงหนุ่มดูจะจัดอะไรไม่เป็นระเบียบเท่าไหร่ มือเรียวค่อยๆรูดซิปกระเป๋าเดินทางสีดำใบใหญ่ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแม่กุญแจมาลอคกระเป๋าป้องกันการถูกเปิดกระเป๋าระหว่างทาง

“เตรียมพาสปอร์ตแล้วใช่ไหม”

นักแสดงหนุ่มพยักหน้าก่อนที่จะเอามันไปวางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง ขายาวก้าวเขามาหาคนรักที่นั่งอยู่บนเตียงก่อนจะนั่งลงข้างๆพร้อมกับโอบเอวคนรักไว้

“ไม่อยู่ 4 วัน ยอลดูแลตัวเองดีๆรู้ไหม”

ต่อจากนี้อีก 4 วันคิมมยองซูจะต้องเหินฟ้าไปเมืองหนานจิงที่ประเทศจีนเพื่อร่วมกิจกรรมกับแบรนด์เครื่องสำอางค์ที่ชายหนุ่มได้เซ็นสัญญาเป็นพรีเซนเตอร์ไว้ พรุ่งนี้เขามีบินเช้าและคิดว่าคนน่ารักก็คงจะตื่นไปส่งเขาไม่ไหวอยู่แล้ว ก่อนนอนคืนนี้ก็คงต้องร่ำลากันให้เรียบร้อยเสียหน่อย เพราะปกติ ถ้าว่างซองยอลก็มักจะบินไปด้วยและต่อด้วยการไปเที่ยวกันสองต่อสอง แต่เพราะซองยอลมีงานดินแบบให้กับห้องเสื้อของดีไซน์คนสนิทของทั้งมยองซูและซองยอลนั้นก็คืออีซองจง ทำให้ซองยอลไปด้วยไม่ได้
“อย่าดื้อรู้ไหม หื้มม”

มยองซูแกล้งชี้นิ้วทำเหมือนผู้ใหญ่กำลังดุเด็กน้อยให้อยู่ในโอวาท ทำเอาซองยอลถึงกับทำแก้มป่องใส่มยองซูทันที่พร้อมประโยคน่ารักๆ ที่ถ้าใครได้ฟังนายแบบหนุ่มหน้าหวานอ้อนแบบนี้แล้วละก็ต้องใจอ่อนกันแน่ๆ

“เค้าไม่ใช่เด็กนะมยองซูวว”

“แล้วแบบไหนละที่ผู้ใหญ่เขาทำกัน”

“ก็แบบนี้ไง”

รอยยิ้มหวานละมุนปรากฏขึ้นบนดวงหน้าหวานก่อนที่ลูกตาสุกวาวจะสบเข้ากับแววตาของคนเจ้าเล่ห์ ริมฝีปากของทั้งสองหนุ่มสัมผัสกันแผ่วเบาก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความหวานที่แสนซาบซ่านตามแรงอารมณ์ที่มี ลิ้นร้อนผลัดกันกวาดชิมความหอมหวานของโพรงปากแต่ละฝ่ายอย่างไม่มีใครยอมใคร แขนเรียวของซองยอลค่อยๆเลื่อนมาคล้องคอมยองซูเอาไว้ เหนี่ยวรั้งไม่ให้สัมผัสพิศสวาทห่างไปไกล คนตัวบางแหงนหน้าขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ซุกไซร้ลำคอระหง ก่อนที่คิมมยองซูจะขบเม้มและดูดดึงสร้างรอยรักเอาไว้ทั่วลำรอขาวเนียนของซองยอล ซองยอลค่อยๆขยับตัวออกมากอ่นจะจ้องเข้าไปในดวงตาคมของคนรัก

“แน่นใจหรอ พรุ่งนี้มยองบินเช้ามากเลยนะ” ถึงจะถามแต่แววตาซุกซนจนปิดไม่มิดของซองยอลนั้น ถึงจะต้องตื่นเช้าแค่ไหน แต่เพื่อที่จะทำให้สุดที่รักพึงพอใจและมีความสุข คิมมยองซูก็โอเคทั้งนั้นแหละ

จะไม่ได้นอนกอดคนตัวนิ่มอีกตั้ง4 วัน 3 คืน ใช้แรงแค่นี้ สบายมากๆ

“ว่าแต่ยอลเถอะ จะไหวรึปล่าว”

ไม่มีคำตอบออกจากปากของคนตัวบางหลังจากริมฝีปากของทั้งคู่ดึงดูดหากันอีกครั้ง มีเพียงแต่เสียงแห่งความสุขของคนสองคนที่ต่างจับมือกันและก้าวเดินไปสู่ดินแดนลึกลับที่มีเพื่อนเขาทั้งสองได้มาร่วมเสพสุขกันในที่นี้ สองร่างสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างไม่รู้เบื่อ กอดก่ายมอบความสุขให้แก่กันอยู่บนเตียงกว้างอย่างเร่าร้อน ก่อนที่ทั้งสองจะเข้าสู่ห้วงนิทราเพราะความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมรักที่เกิดขึ้น






หลังจากเมื่อคืนผ่านสมรภูมิรักมาจนร่างกายเหนื่อยอ่อนจนพอซองยอลตื่นมาคิมมยองซูก็ส่งข้อความมาบอกว่าถึงหนานจิงเรียบร้อยแล้วและวันนี้เจ้าตัวอาจจะไม่ได้ติดต่อมาเพราะน่าจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเซ็นสัญญาของปีต่อไป ซ฿ึ่งซองยอลก็เข้าใจดี ไม่ลืมที่จะส่งสติกเกอร์น่ารักๆไปให้กำลังใจอีกฝ่าย

ทางด้านนายแบบหนุ่มก็เดินทางมาที่ฮอลจัดงานแฟชั่นโชว์ที่จะเกิดขึ้นในวันมะรืนทันทีเพื่อมาซ้อมกับเหล่านายแบบคนอื่นรวมถึงจัดแพทเทิร์นในการเดินแบบ เมื่อมาถึงสถานที่ซองยอลก็รีบไปหาเจ้าของห้องเสื้อที่เป็นเจ้าของงานทันทีนั้นก็คืออีซองจงรุ่นน้องที่แสนนนจะสนิทกับอีซองยอลนั้นเอง

“พี่ซองยอลลลลลล” เสียงแหลมสูงของอีกฝ่ายที่ดังมาก่อนตัวของอีซองจงร้องทักคนเป็นพี่ทันทีที่เห็น ก่อนที่ดีไซน์เนอร์หนุ่มน้อยจะวิ่งมากอดซองยอล

“ยินดีด้วยนะซองจง ของให้คอลเลคชั่นนี่บูมบูมนะ”

“มีนายแบบอย่างพี่ซองยอลมาเป็นหุ่นให้ ยังไงก็ปัง”

หลังจากทักทายกันเล็กน้อยอีซองจงก็ลากพี่ชายคนสนิทไปดูบรรดาชุดต่างๆของที่เอามาโชว์ในงานนี้ ส่วนมากจะเป็น Coat ยาวหลากสีสันที่มีลายปักเล็กๆทำให้ดูน่ารัก ชุดของซองยอลนั้นเป็น Coat ยาวสีชมพูนมเย็นพร้อมกับเสื้อใหม่พร้อมสีครีมคอเต่า แถมพรอพเพิ่มความน่ารักด้วยแว่นทรงกลม

“เสียดาย พี่มยองซูไม่ได้มาเดินด้วย ผมหละเซ็ง”

ซองจงอุส่าวางแพลนไว้อย่างดี เพราะคอนเซปหลักของงานแฟชั่นครั้งนี้คือเสื้อผ้าที่ไม่ได้แยกว่าเป็นของชายหรือหญิง เพศไหนก็ใส่ได้ เข้ากับทุกเพศทุกวัย แถมยังมีเรื่องของ Love wins เข้ามาเกี่ยวข้องอีก

“ตอนแรกผมวางแผนไว้นะ ว่าตอนจบจะให้พี่สองคนจูบกันสักหน่อย ไหนๆก็สวีทกันออกสื่อขนาดนี้แล้ว”

มีใครในเกาหลีหรือแฟนคลับวงการเกาหลีคนไหนไม่รู้บ้างหละว่านายแบบอีซองยอลกับนักแสดงคิมมยองซูกำลังคบกันอยู่ ทั้งควงกันออกสื่อ ถ่ายแบบ บทสัมภาษณ์ ไหนจะล่าสุดที่ประกาศอีกว่าปลายปีจะแต่งงาน เรียกว่า โน สน โน แคร์ทุกกระแสที่แท้จริง แต่พอมยองซูติดงาน แผนที่ซองจงวางไว้ก็มีอันต้องพับไป ถ้าขืนให้พี่ซองยอลไปประกบปากกับนายแบบคนไหนนะ พี่มยองซูตามมาฆ่าซองจงแน่ๆ!!

“เอาจริงใช้มุมหลอกก็ได้นะ กับนายแบบคนใหม่ที่จะมาเดินคู่กับพี่ถ้านายต้องการ”

งานก็คืองาน สำหรับซองยอล การทำให้ผู้ว่าจ้างพอใจคือหน้าที่ของเขา เพราะฉะนั้นถ้าซองจงจะให้เขาเอาหน้าไปใกล้ๆนายแบบอีกคนที่จะมาเดินคู่ด้วยเพื่อให้เข้ากับคอนเซปมันก็ได้แหละ

แต่คนเป็นน้องก็รีบส่ายหน้าและสวนกลับมาทันควัน

“พี่คงไม่อยากเห็นผมโดนพี่มยองซูฆ่าหรอกนะ ก็รู้ว่าแฟนพี่ขี้หึงแค่ไหน”

ซองยอลหัวเราะกับท่าทางของซองจงที่แสดงสีหน้าเหยเกเมื่อนึกถึงเวลาที่คิมมยองซูหึงซองยอลขึ้นมา

ขอบอกเลยว่าเวลามยองซูหึง ความน่ากลัวก็ไม่ได้น้อยไปกว่าเวลาซองยอลหึงเลยสักนิด…….

“ว่าแต่ใครเดินคู่กับพี่ตอนจบอ่ะ”

ซองยอลลองมองไปรอบๆเขาเห็นเหล่านายแบบนางแบบมากมายกำลังเตรียมตัวจะไปซ้อมคิวกันอยู่ลายตาไปหมด

“ไม่รู้อ่ะพี่ เรื่องโมเดลผมให้พี่ฮวังโบจัดการให้อ่ะ จะมีคนที่ผมเชิญมาเป็นพิเศษก็จะมีพี่ แจซอก ดงฮยอก จางจุน ยองแทค จูชาน ก็เท่านั้นแหละ”

ซองจงมอบหน้าที่ให้พี่ฮวังโบพี่สาวคนสนิทเป็นคนดูแลเกี่ยวกับการคัดเลือกนายแบบและนางแบบ จะมีเพียงไม่กี่คนซองจงเชิญมาเดิน ซึ่งคนเหล่านั้นก็เป็นรุ่นน้องของซองยอลด้วยเช่นกัน

“อ๋อ งั้นพี่ไปหาเด็กๆก่อนนะ นายก็ไปเช็คความเรียบร้อยของเสื้อผ้าเถอะ เดี๋ยวเจอกัน”

“ครับพี่”

ก่อนที่ทั้งสองจะแยกตัวกันไปทำงานของตัวเอง ทางด้านซองยอลก็เดินไปหาบรรดานายแบบนางแบบรุ่นน้องก่อนที่จะรอฟังการบรีฟและพูดถึงแพทเทิร์นในการเดิน

“อ่าวซองยอล มาแล้วใช่ไหม”

“ครับพี่” ซองยอลตอบรับเสียงเรียกของพี่ฮวังโบทันที

“ถ้างั้นมาทางนี้เลย เดี๋ยวพี่จะบอกแพทเทิร์นการเดินให้นะ ซองยอลจะต้องเดินกับ คังแทโอ นะจ้ะ”

เหมือนโลกหยุดหมุนทันทีที่พี่ฮวังโบประกาศว่าเขาจะต้องเดินแบบคู่กับนายแบบหนุ่มต่างค่ายอย่าง คังแทโอ คนที่ซองยอลนั้นไม่อยากจะร่วมงานมากที่สุดในชีวิต หากถามว่าทำไมหรอ..? ก็ชายหนุ่มคมเข้มคนนั้นสุดแสนจะเก่งเรื่องการสร้างข่าวอะไรฉาวๆหนะสิ จะไปเลนละครกับใคร ถ่ายแบบกับใคร เดินแบบกับใคร ก็มันจะมีประเด็นข่าวแปลกๆเกิดขึ้นเสมอเพราะความหูตาไวปลาไหลเรียกพ่อและอีกหลายอย่างของชายคนนี้ นั้นก็คือเหตุผลหนึ่งที่ซองยอลไม่อยากจร่วมงานกับผู้ชายคนนี้!!

และอีกเหตุผลหนึ่งที่อีซองยอลอยากจะร้องไห้ออกมาเลยก็คือ คังแทโอ เป็นคู่อริกับ คิมมยองซูที่คิดจะง้าบซองยอลอยู่แล้ว!!!

แล้วคิดหรอ ว่าแทโอจะไม่ยั่วโมโหคิมมยองซูอ่ะ!!!

แล้วความซวยก็มาตกอยู่ที่อีซองยอลไง!!!!!

โว้ยยยยยยยยยยยยยย อยากจะบ้า ซองยอลอยากจะบินตามมยองซูไปหนานจิง TTOTT









การซ้อมในวันแรกผ่านไปด้วยดี เล่าบรรดาเด็กๆของซองยอลที่พอจะรู้ว่าคนอ่างคังแทโอเป็นอย่างไรต่างผลัดเวียนกันมาดูแลพี่ชายคนสวยตลอดเวลาที่ซ้อม อีกอย่างเพราะเมื่อวานเป็นการซ้อมวันแรกทำให้แค่เวลาชี้แจงจุดโพส แพทเทิร์นการเดิน คิว ก็หมดเวลาไปเยอะแล้ว ซองยอลกับแทโอจึงยังไม่ได้เดินซ้อมด้วยกัน

แต่วันนี้อ่ะสิ เดินซ้อมเจาะละเอียดที่ละคิว ยังไงซองยอลก็ต้องอยู่กับแทโอสองต่อสองบนเวที TTOTT อยากจะร้องไห้

“พี่บอกเฮียรึยังอ่ะว่าต้องเดินกับไอ้แทโอ”

ปาร์คแจซอก นายแบบหนุ่มที่อยู่สังกัดเดียวกับซองยอลถามรุ่นพี่ด้วยความเป็นห่วง ไม่รู้ว่าซองยอลบอกพี่มยองซูรึยังว่าต้องมาเดินกับคู่อริที่จ้องจะง้าบซองยอลอยู่แล้ว
“ผมว่านะ ถ้าพี่บอกเฮีย กริ้งเดียว ไอ้แทโอปลิวแน่นอน” ดงฮยอกน้องรองของกลุ่มแนะนำทันที เพราะใครๆก็รู้ว่าพ่อของมยองซูเป็นคนมีอิทธิพลด้านวงการมายาแค่ไหน กริ๊งเดียว จบเรื่อง

แต่ซองยอลกลับส่ายหน้า เขาจะทำแบบนี้ได้อย่างไรกัน งานฏ้คืองาน ซองยอลจะเอาเรื่องส่วนตัวที่ว่าเอาไม่อยากทำงานกับแทโอเพราะคิมมยองซูมาอ้างกับงานมันก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง นายแบบมืออาชีพ ไม่ว่ากับใคร หรือจะเจออะไรก็ต้องทำได้

“พี่ทำไม่ได้อ่ะ งานก็คืองาน”

“แล้วพี่ไม่คิดจะบอกเฮียสักหน่อยหรอ” เด็กหนุ่มหน้าตาซุกซนอย่างจางจุนถามขึ้น

“อย่างน้อยเฮียจะได้ไม่เข้าใจผิดนะ” เด็กๆทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับจางจุน มยองซูกับซองยอลจะได้ไม่ต้องมาผิดใจกันถ้าเกิดว่าแทโอทำอะไรให้เข้าใจผิด

“พี่ไม่อยากให้มยองคิดมากอ่ะ ยังไงเราสองคนก็ไม่ทะเลาะกันหรอก มยองซูไว้ใจพี่ พี่เชื่อ”

ซองยอลไม่ได้กลัวเลยซักนิดว่ามยองซูจะเข้าใจอะไรผิด เพราะความเชื่อใจ เป็นสิ่งสำคัญของความรัก ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทั้งสองมีอยู่ ยังไงซะ ซองยอลก็รักเพียงคิมมยองซูคนเดียว แต่ที่กังวลก็คงจะเป็นกลัวมยองซูไม่สบายใจแหละ เจ้าตัวต้องออกอีเว้นกับบริษํทถึง 3 งานก่อนจะบินกลับในวันที 4 แถมยังเป็นงานที่ต้องเซอร์วิสแฟนคลับ เกิดเจ้าตัวหน้างอคอหักไปหาแฟนๆจะทำยังไงหละที่นี้

“ซองยอล แทโอ ซ้อมคิวจ้า”

เสียงฮวังโบนูน่าเรียกให้นายแบบหนุ่มขึ้นไปซ้อมคิว ซองยอลถอนหายใจด้วยความเซ็งเล็กน้อย(จริงๆก็มากอยู่) ก่อนจะบอกลาพวกเด็กๆเพื่อจะไปซ้อมคิว

รันเวย์ของงานนี้เป็นรันเวย์ตรงยาวปกติเดินไป 1 เลน เดินกลับหนึ่งเลน โดยตอนนี้จะซ้อมแค่คิวของคู่ซองยอลเท่านั้น เพราะทั้งสองเป็นโชว์ปิด

“ว่าไงซองยอล” เสียงทุ่มของนายแบบหน้าคมเอ่ยทักทายซองยอลก่อนที่ซองยอลจะตอบกลับไป

“อืม หวัดดี”

“หึ เย็นชาจริงๆนะ” ซองยอลไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะนี่มันเวลาซ้อม ไม่ใช่เวลามาต่อล้อต่อเถียง

คนตัวเล็กยืนฟังพี่ฮวังโบบรัฟอย่างตั้งใจ โยแทโอจะเป็นคนเดินไปก่อนแล้วหยุดรอที่ปลายรันเวย์ ส่วนซองยอลนั้นจะเดินตามไปเข้าคู่ทีหลัง หลังจากนั้นจะมีไฮดรอลิคตรงกลางแสดงเคลื่อนขึ้นมานั้นก็คือซองจงเจ้าของห้องเสื้อที่จะมาปิดท้ายงาน

“เดี๋ยวน้องแทโอเดินมาก่อนนะคะ พอมาถึงตรงข้างหน้าสุดก็หยุดโพสไว้ ส่วนน้องซองยอล พอเดินมาถึงก็เดินมาข้างหน้าแทโอเลยนะคะ ให้แทโอซ้อนหลัง ตรงนั้นมันเป็นไฮโดรลิก อาจจะต่างระดับหน่อย แต่ไม่ต้องตกใจนะคะ ไม่ใช้”

“ครับ//ครับ”

นายแบบทั้งสองรับคำก่อนจะเริ่มซ้อมกับเพลงจริง

เมื่อเพลงเปิดขึ้น แทโอก็เริ่มเดินทันที ในความเป็นจริง ซองยอลก็ถือว่าตัวแทโอนั้นเดินแบบได้ดีที่เดียวเลย ทวงท่าของนายแบบหนุ่มนั้นดูเท่และเข้มแข็งมากๆ รวมถึงสายตาที่สามารถสื่อความหมายได้ดี และเมื่อแทโอถึงจุดมาร์ค ซองยอลก็ออกเดินทันที ขาเรียวยาวก้าวไปข้างหน้าอย่างว่องไว ทั้งมีพลังและมีเสน่ห์ สำหรับทรวดทรงเพรียวบางในแบบผู้ชาย ก็คงเป็นซองยอลนั้นแหละ ที่ดูดีที่สุดสำหรับรูปลักษณ์แบบนี้ คนหน้าหวานยกยิ้มเล็กน้อยเพื่อคงความสมาร์ทเอาไว้ก่อนที่จะเดินขึ้นไปซ้อนข้างหน้าแทโอ

“อ๊ะ…!!!”

แต่ในตอนนั้นเอง คนตัวหนาก็ถือวิสาสะเอามือมาโอบเอวซองยอลไว้ก่อนจะดึงเข้ามาให้ร่างบางแนบชิดกับแผ่นอกแกร่ง ก่อนที่จะเอียงใบหน้าเข้าหาซอกคอระหงค์

“ดีมากค่ะน้องแทโอ พี่ชอบ” เสียงของพี่ฮวังโบเอ่ยชมทั้งสองออกไมค์ทันที เพราะภาพที่ได้นั้นเข้ากับคอนเซป Love Wins เป็นอย่างมาก

“ตอนจบมันต้องพีคแบบนี้แหละ พี่ชอบท่านี้นะ”

หลังจากพี่ฮวังโบพูดจบก็ดูเหมือนจะทำให้ซองยอลนั้นได้สติว่ากำลังถูกอีกคนคุกคามอยู่ มือบางรีบผลักอีกคนออกทันที ก่อนที่จะรีบถอยออกมาห่างนายแบบจอมเจ้าเล่ห์

“ทำอะไรของนายแทโอ” น้ำเสียงหวานแปรเปลี่ยนเป็นเสียงแข็งเพราะความไม่พอใจทันที

“เรายังไม่ได้เตี๊ยมกันเลยนะ”

“มืออาชีพต้องทำได้ทุกอย่างสิซองยอล” ไม่พูดเปล่า นายแบบหนุ่มหน้าคมยังสาวเท้าเข้ามาใกล้ซองยอลมาขึ้นพร้อมทั้งใช้มือเพียงข้างเดียวโอบซองยอลไว้อีกจนตัวทั้งสองเข้ามาใกล้กัน

“ฉันก็มีดีไม่ต่างจากคิมมยองซูนะ อีซองยอล”

ก่อนที่ใบหน้าคมจะโน้มต่ำลงมาด้วยความรวดเร็วเพื่อหวังจะครอบครองริมฝีปากอิ่ม แต่โชคดีที่ซองยอลนั้นตั้งสติทันจึงผลักอีกคนออกอย่างเต็มแรงทันที โดยไม่รู้เลยว่ามีคนกำลังพอใจกับการกระทำที่เกิดขึ้นอยู่

“แบบเมื่่อกี้ดีมากนะคะน้องซองยอล น้องแทโอ ถ้าตอนจบน้องจุ๊บกัน มันจะลงตัวมากๆ”

“ไม่เอ…. // ครับ ตกลงครับ ตามนั้นครับพี่ฮวังโบ”

ยังไม่ทันที่ซองยอลจะได้ตอบ คังแทโอก็ตะโกนรับปากพี่ฮวังโบไปแล้ว สร้างความหงุดหงิดให้ับซองยอลเป็นอย่างมาก

“นายทำบ้าอะไรคังแทโอ!!”

ซองยอลกัดฟันพูดด้วยความโมโห เขารู้ว่าคังแทโอทำมัน เพื่อให้มยองซูหัวเสีย แต่นี้มันวิธีเด็กอมมือชัดๆ บ้า บ้า บ้าที่สุด

“นายจะยั่วโมโหมยองซูเพื่ออะไร โตๆกันแล้วก็น่าจะคิดได้ไหม ว่ามันไม่ควร”

ดวงตากลมโตที่เคยมีแต่ประกายหวานแปรเปลี่ยนเป็นดวงตาแข็งกร้าวก่อนจะจ้องไปยังอีกฝ่ายที่ดูไม่ยี่ระอะไรทั้งนั้น

“โตๆกันแล้ว นายก็ควรแยกแยะสิ ว่างาน กับเรื่องส่วนตัวคืออะไร”

“ใครกันแน่อีซองยอล ที่ต้องแยกแยะ งานก็คือนายต้องจูบฉัน มันไม่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว” แทโอตอกกลับซองยอลทันทีพร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความร้ายกาจก่อนจะหันหลังและเดินกลับไปยังห้องพัก ทิ้งให้ซองยอลหัวเสียอยู่คนเดียวบนเวที

ใช่ มันก็คือเรื่องจริงที่ซองยอลต้องแยกแยะ งานก็คืองาน ซองยอลต้องแยกแยะให้ออก ยังไงซะ ถ้าพรุ่งนี้เขาต้องจูบกับแทโอเพราะงาน มันก็ต้องทำ

หวังว่าคิมมยองซูจะไม่รู้เรื่องพวกนี้ละกันนะ










เสียงไดร์เป่าผมดังไปทั่วห้องพักของโรงแรมสุดหรูใจกลางเมืองหนานจิง หลังจากทำงานพบปะแฟนคลับมาทั้งวัน ก็ถึงเวลาที่มยองซูจะได้พักสักที มยองซูยืนเป่าผมฟูของตัวเองให้เข้าทรงพร้อมทั้งนั่งเช็คข่าวสารไปด้วย จริงๆวันนี้มยองซูอยากจะโทรไปหาซองยอล แต่รู้ดีว่าพรุ่งนี้อีกคนมีงาน และนิสัยของซองยอลก็คือ ถ้าวันไหนมีงาน คืนก่อนหน้านั้นจะนอนเร็วเพื่อให้ป้องกันปัญหาผิว 108 ประการมากมาย

มือหนาค่อยๆเลื่อนดูสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ส่วนมากก็จะเป็นรูปของกลุ่มเด็กๆร่วมสังกัดของซองยอลที่ต่างถ่ายรูปเล่นกันระหว่างรอซ้อม แน่นอนว่าเหล่าลูกสมุนก็ไม่ลืมที่จะถ่ายรูปซองยอลมากฝากด้วย

คิดหรอว่าเขาจะไม่รู้เรื่องคังแทโอ ………..

หึ แน่นอนว่าเด็กๆของเขารายงายทุกอย่างละเอียดยิบชนิดที่ว่ารูปชอตที่แทโอจะดึงซองยอลไปจูบ เด็กๆของเขาก็ถ่ายมาให้

ถึงอยากจะไปจัดการกับแทโอมากแค่ไหน แต่เขาก็นึกถึงหน้าตาของซองยอล มากกว่าอารมณ์หึงหวงของตัวเอง ถ้าเขาจัดการไป ใครจะกล้าจ้างซองยอลทำงานอีกถ้ารู้ว่าข้อจำกัดมีเยอะขนาดนี้ ข้อจำกัดชนิดที่ว่าเข้าใกล้ใครไม่ได้มันต้องส่งผลต่อเจ้าตัวแน่ๆ และคิดว่าตัวซองยอลก็คงไม่อยากให้เขากังวลเช่นกันเจ้าตัวถึงไม่ยอมบอกอะไร

“หึ...คังแทโอ รอบนี้ฉันจะถือว่านายโชคดีไปนะ”

หึงหนะ มันหึงได้ แต่มันก็ต้องมีขอบเขต ไม่ใช่ว่าไม่ควบคุมตัวเองแล้วปล่อยให้อารมณ์พังทลายทุกอย่าง จริงอยู่ที่ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ลำพังจะให้รักกันแค่ 2 คนโดยไม่สนคนรอบตัว เอาความรักที่มีให้กันไปทำลายหรือสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นๆมันก็ไม่ใช่เรื่อง ผ่อนได้ก็ควรผ่อน

พรุ่งนี้เหลือเพียงกิจกรรมช่วงเช้าแล้วงานของเขาก็จะเสร็จเรียบร้อยและได้กลับบ้านไปหาคนรักสักที

แต่บังเอิญว่ามันมีรูปรูปๆหนึ่งหนะสิที่ทำให้มยองซูเปลี่ยนความคิดหลายๆอย่าง เมื่อเขาเจอรูปที่โพสอยู่ในอินสตาแกรมของคังแทโอพร้อมแคปชั่นที่เหมือนจะท้าทายคิมมยองซู

kangtaeoh0620 : Still...Steal


“ซองจง พี่มีอะไรให้ช่วย”

แล้วนายจะได้รู้ คังแทโอ………..









ในที่สุดช่วงค่ำก็มาถึง หลังเวทีในตอนนี้ทั้งเหล่าบรรดานายแบบนางแบบมากมายกำลังสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปแต่งหน้า ทำผมและเปลี่ยนเสื้อผ้า เช่นเดียวกับอีซองยอลที่ตอนนี้กำลังแต่งหน้าอยู่ ลุคในวันนี้ก็เป็นลุคเบาๆเช่นเคย แก้มป่องถูกเติมจุดให้ดูมีกระเล็กน้อยๆและปัดให้เข้มกว่าปกติให้เหมือนกับผิวที่ที่แดงในช่วงหน้าหนาว ดวงตาถูกแต่งด้วยอายแชโดวเนื้อเมทเบาบาง ก่อนจะแต้มสีปากด้วยลิปทินส์ให้ปากอิ่มดูขึ้นสีระเรื่อน่ามอง

สายตาของอีซองยอลเอาแต่จ้องจอโทรศัพท์เพราะตอนี้เขากำลังแชทคุยกับมยองซูอยู่ มยองซูบอกเขาว่าตอนนี้งานเสร็จแล้ว เหลือแค่รอกลับเกาหลี

MS.KIM : ตื่นเต้นไหมซองยอล

Yeolipop : ก็นิดหน่อยอ่ะ กลัวทำออกมาไม่ดี


และกลัวฉากจบด้วยแหละ ทำไมต้องมาเป็นคู่ฟินนาเล่ด้วยนะ ซองยอลได้แต่คิดในใจ ตั้งแต่เข้ามาแต่งตัว เขาก็ไม่เจอแทโอเลยเพราะตัวเขานั้นแหละพยายามเลี่ยง เจอทำไมให้เสียอารมณ์


MS.KIM : นายทำได้อยู่แล้วหละที่รัก รอรับรางวัลจากฉันได้เลย

Yeolipop : งืมม พรุ่งนี้มยองกลับดีๆนะ เดี๋ยวยอลไปรับที่สนามบินนะ

MS.KIM : OK แล้วเดี๋ยวเจอกัน รักนะ ♥

Yeolipop : อืม รักเหมือนกัน ♥


“พี่ละอิจฉาน้องยอลจริงๆ มยองซูรักขนาดนี้” มินอานูน่าที่ยืนแต่งหน้าให้ก็ไม่ได้อยากจะมายุ่งอะไรหรอกนะ แต่ว่าแค่เห็นรอยยิ้มของซองยอลยามแชทกับแฟนเนี่ย มันก็อดอิจฉาไม่ได้

“แล้วนี่มยองซูขอน้องยอลแต่งงานรึยัง เห็นบอกว่าจะแต่งปลายปีไม่ใช่หรอ”

ทันทีที่ได้ยินคำถาม แก้มนุ่มฟูทั้งสองข้างก็เริ่มขึ้นสีอีกครั้งทันที อีกไม่นานก็ปลายปีแล้ว คิมมยองซูก็ยังไม่ได้ขอซองยอลแต่งงานเลยสักคำ

เอาจริงๆ แค่ได้ยินคำว่าแต่งงาน มันก็เขินขึ้นมาเฉยเลย ><

“ยังเลยพี่มินอา มยองซูยังไม่ได้พูดอะไรเลยครับ”

“ยังไงก็อย่าลืมบอกพี่ด้วยนะ น้องยอลไปทำผมกับแต่งตัวได้เลยจ้ะ”

“ขอบคุณนะครับ” ซองยอลโปรยยิ่้มหวานก่อนจะเดินไปทำเปลี่ยนชุดและทำผม ซึ่งทรงผมวันนี้ก็แค่เซ็ตให้ดูยุ่งๆเหมือนเด็กที่ซุกซน ประดับด้วยแว่นกลมสักอันก็ดูไร้เดียงสาขึ้นมาแล้ว

หลังจากสวมชุด แต่งหน้า ทำผมเรียบร้อยแล้ว ซองยอลก็ไปรอแสตนบายด์หลังเวทีตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเขาไม่อยากไปยืนเกะกะตรงบริเวณที่เหล่าโมเดลจัดการแปลงโฉมกัน ตอนนี้ข้างหลังยังคงโล่งอยู่เลยเพราะนายแบบนางแบบส่วนมากยังไม่เสร็จกัน

“อ๊ะ พี่ซองยอลอยู่นี้เอง!!” ซองยอลหันไปตามเสียงของซองจง ก่อนที่อีกคนจะวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา

“โอ้ยพี่ ผมขอโทษ ผมไม่รู้เลยว่านายแบบคือแทโอ ผมขอโทษนะพี่” เจ้าของงานรีบขอโทษซองยอลทันที

“ไม่เป็นไร งานก็คืองานเนอะ นายไปดูพวกเสื้อผ้าเหอะซองจง นายแบบนางแบบหลายคนยังจัดไม่ค่อยเรียบร้อยเลย”

ซองยอลรีบบอกให้เจ้าของแบรนด์ตัวจิ๋วไปเช็คงานทันที ส่วนตัวเขาก็นั่งรอยู่ในห้องพักหลังเวทีเนี่ยแหละ สักพักเหล่าเด็กๆของเขาก็พากันมานั่งเป็นเพื่อน ส่วนคังแทโออะหรอ อยู่คนละโยชเลยแหละเพราะเด็กๆของเขาเล่นนั่งบลอคไว้หมด

“พี่เห็นรูปเมื่อวานใช่ไหมพี่ซองยอล ผมนี้โคตรหงุดหงิด”

จางจุนบ่นถึงรูปในไอจีแทโอเมื่อวานทันที รูปที่ไม่รู้ว่าใครแอบถ่ายจากมุมไหน แต่เป็นมุมที่เห็นว่าแทโอกับซองยอลหน้าแทบติดกัน แถมยังลงแคปชั่นที่ล่อแหลมอีก

ซองยอลได้แต่พยักหน้าอย่างหน่ายๆ เขาเห็นแหละ แต่ทำอะไรไม่ได้ รู้ว่ามยองซูไม่ได้ฟอลแทโอ ยังไงก็คงไม่เห็น

“ผมได้ข่าวมาอ่ะพี่ ว่าวันนี้จะมีโชว์พิเศษตอนท้าย หวังว่ามันจะดึงความสนใจของฉากจบพี่ได้นะ” ยองแทคพูดในสิ่งที่ตัวเองได้ยินมาว่าจะมีโชว์มาเสริมตอนปิด ซึ่งคิดว่ามันน่าจะดึงความพีคจากฉาบจูบซองยอลไปได้

“ผมอ่ะนะ อยากให้เฮียกลับมาเป็นอัศวินขี่ม้าขาวมาพาพี่ลงจากเวทีจริงๆ” พูดถึงแล้วก็อดนึกถึง เฮีย ของเด็กๆเหล่านี้ไม่ได้ ไม่รู้ป่านนี้กำลังแพคของเตรียมกลับเกาหลีอยู่แหละ

“งานจะเริ่มแล้วนะคะ แสตนบายค่ะ”

เสียงของทีมงานดังขึ้นก่อนที่เหล่าเด็กๆที่เดินคิวแรกๆจะขอตัวไปเตรียมตัว ส่วนซองยอลก็รีบหยิบหูฟังมาใส่เพื่อปิดตัวเองจากโลกภายนอกทันที

ระหว่างที่แฟชั่นโชว์เริ่ม ซองยอลก็เริ่มนึกถึงโชว์ที่ยองแทคพูด ไม่แน่ซองจงอาจจะไปจ้างนักเต้นสักกลุ่มมาเต้นปิดรึปล่าวเพื่อให้งานอลังการ เพราะครั้งที่แล้วดีไซน์ตัวจิ๋วก็เซอไพรซ์เหล่าผู้ชมด้วยการจ้างคนควงกระบองไฟมาโชว์ในงานเพราะมันเข้ากับคอนเซป เรียกได้ว่าเซอไพรซ์สุดๆไปเลย

ว่าแต่ในปีนี้ จะมีเซอไพรซ์อะไรรึปล่าวนะ

หลังจากนั่งฟังเพลงมาพักใหญ่ ก็ถึงคิวของซองยอลและแทโอแล้ว ซองยอลพยายามจะไม่สนใจอีกคนและปล่อยให้อีกคนเดินไปก่อน รอจนแทโอถึงมาร์คแล้วเขาถึงออกไปตามคิว

คนหน้าหวานจ้องมองจังหวะการเดินของแทโออย่างตั้งใจเพื่อที่จังหวะจะได้ถูกเป๊ะ และเมื่อแทโอเดินถึงปลายรันเวย์ ซองยอลก็เริ่มออกเดินทันที

แต่ทันใดนั้น ในระหว่างที่ซองยอลเดินอยู่ เหมือนว่าไฮโดรลิกตรงแทโออยู่ดีๆก็เกิดทำงานขึ้นมาซะงั้น กลางเป็นว่าตัวของแทโอค่อยๆหายลงไปใต้เวที ในเวลานั้น ซองยอลก็ต้องเดินให้ช้าลง เพื่อรอให้ไฮดรอลิกตรงนั้นคืนขึ้นมาก่อนแล้วจึงจะเดินไปโพส

นี้มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกอย่างถึงได้ผิดคิว? แต่ด้วยความมืออาชีพ ซองยอลก็พยายามแก้ไขสถานการณ์โดยการณ์ไปยืนโพสรอปกติรอให้ไฮดรอลิกกลางเวทีขึ้นมา แล้วก็เดินไปหาอีซองจง

แต่ทันใดนั้น ไฟก็ดับลงทั้งฮอล ก่อนที่จอภาพข้างหลังจะเปลี่ยนเป็นสีรุ้งซึ่งสื่อความหมายถึงความรักที่ไม่จำกัดสถานภาพ ทันใดนั้น สปอร์ตไลท์กลางเสตจก็สว่างขึ้น ก่อนจะเห็นชายหนุ่มที่ซองยอลคุ้นหน้าเป็นอย่างดีในชุดแบบเดียวกันกับซองยอลแต่เพียงเสื้อ coat ของอีกฝ่ายเป็นสีฟ้า

คิมมยองซู….นายมาได้ยังไง

ดวงตากลับจับจ้องไปยังชายหนุ่มที่กำลังเดินตรงมาหาเขาตรงปลายรันเวย์ด้วยรอยยิ้ม

สุดท้าย คิมมยองซูก็เป็นอัศวินขี่ม้าขาวของซองยอลจริงๆ

เมื่อมยองซูเดินมาถึงตรงปลายรันเวย์ ซองยอลก็ไม่ลังเลที่จะสร้างฉากสุดท้ายให้ประทับใจด้วยกันโน้มตัวเข้าไปจูบกับคนรักทันที

ก็ทำทุกอย่างออกสื่อมาแล้วหนิ ก็เหลือจูบออกสื่อที่ยังไม่เคย ก็ถือโอกาสทำเลยละกัน

ริมฝีปากทั้งสองผลัดกันแลกสัมผัสลึกซึ้งอย่างไม่รู้เบื่อ ถึงเสียงตรบมือของผู้ชมจะดังแค่ไหน แสงแฟลชจะแรงเพียงใด เสียงชัตเตอร์จะถี่รัวแค่ไหน ก็ไม่ได้ทำให้เขาทั้งสองหวั่นเกรง ปลายลิ้นหยอกล้อมอบความสุขให้กันและกัน กวาดชิมทุกหยาดหยดที่แสนหวานล้ำ ก่อนที่สุดท้ายซองยอลจะผละออกเพราะเขาเริ่มหมดลมหายใจแล้วสื

เสียงปรบมือของผู้ชมดังกึกก้องไปทั่วฮอล คอนเซป Love Wins ของซองจงถูกเติมเต็มจนสมบูรณ์เพราะคนทั้งสองคน คิมมยองซูโอบเอวอีซองยอลไว้ก่อนที่ไฮดรอลิกจะค่อยๆเลื่อนลง

“นายมาได้ไง!!!”

ซองยอลโผเข้ากอดคนรักทันทีก่อนจะซุกหน้าไปกับไหล่แกร่งอย่างออดอ้อน

“นั่งเครื่องมาไง ไปเปลี่ยนเสื้อกัน อยากกลับบ้านไป กอด ยอลละ”

มยองซูลูบหัวคนรักด้วยความเอ็นดูเหมือนที่ชอบทำ ส่วนซองยอลก็เบะปากเหมือนเดิมเมื่อได้ยินคนเจ้าเล่ห์เหมือนจะคิดไม่ดีกับตัวเขาเสียแล้ว มือหนาโอบเอวบางไว้ก่อนที่จะพากันเดินไปที่ห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า

“โหยเฮียยยย เด็ดด!!”

เสียงเป่าปากแซวของบรรดานายแบบนางแบบมากมายดังตลอดทางที่ทั้งสองเดิน ทุกสายตาต่างมองคู่รักมยองยอลด้วยความอิจฉาในความหวานชื่นที่ทุกคู่ในวงการต้องยอม

ก็อีซองจงเพิ่งมาเปิดเผยให้ทุกคนได้รู้แหละ ว่าคิมมยองซูโทรมารีเควสให้ช่วยทำอะไรบางอย่าง แต่เหมือนว่าขั้นตอนทั้งหมดมันยังไม่หมดแค่นี้แหละ

สายตาของมยองซูมองไปยังคังแทโอที่ยืนอยู่ริมห้องด้วยสายตาของผู้ชนะ จริงๆก็ว่าจะปราณีให้โอกาสได้ใกล้ชิดซองยอลของเขาอยู่แล้วนะ ถ้าหากอีกคนไม่คิดยั่วโมโหเขาก่อน

เสียใจด้วยนะ นายมันก็แค่ LOSER

“มามยองซู เราช่วถอด Coat ไปเก็บให้”

ซองยอลค่อยๆช่วยมยองซูถอดเสื้อโค๊ทที่เป็นของห้องเสื้อซองจงให้อีกฝ่ายก่อนจะอาสาไปแขวนให้ที่ราว ซึ่งมยองซูก็ทำตามแต่โดยดี

เสื้อโค๊ทสีฟ้าชมพูตัวยักษ์ฟาดอยู่บนแขนของนายแบบหน้าหวาน ซองยอลค่อยๆเอามันใส่ไม้แขวนอยากดีก่อนจะใส่มันเข้าไปในราว แต่พอดูดีๆเหมือนกันในเสื้อโค๊ทของมยองซูมันมีกล่องอะไรบางอย่างอยู่ ซองยอลจึงหยิบออกมาก่อนะเปิดเช็คดู แต่เมื่อเปิดดูตัวเขาก็แทบจะหยุดหายใจ

“นี่มัน…….”

“แต่งงานกันนะ ซองยอล”

เสียงนุ้มทุ่มดังขึ้นบริเวณใบหลังใบหูของซองยอล รวมถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดต้นคอของเขาอยู่แสดงให้เห็นว่าคิมมยองซูอยู่ใกล้เขาแค่ไหน หัวใจดวงน้อยสั่นระรัวทันทีที่ได้ยินคำขอที่แสนสำคัญในเวลาที่เขาไม่ได้คาดการณ์ไว้

ไม่มีเซฮไพรซ์อลังการ
ไม่มีดอกไม้โปรยสวยงาม
ไม่ได้มีแสงเทียนแสนโรแมนติก
ไม่ได้มีถอยคำสวยหรู
ไม่ได้มีการสารภาพใดๆทั้งนั้น

มีเพียงแหวนทองคำขาววงเรียบพร้อมกับคำขอสั้นๆในห้องแต่งตัวหลังงานแฟชั่นโชว?


แต่หัวใจของเขากลับพองโตขึ้นมาจนแทบจะระเบิดออกมา

การสารภาพรักที่สวยหรู วิดิโอพรีเซนความรักอันแสนยาวนาน มันไม่มีค่าอะไรเลยสำหรับเขาทั้งสองคน เพราะสิ่งที่มีค่าที่สุดคือกันละกัน ถ้าถามว่าความรักของมยองซูคืออะไร มยองซูก็จะตอบว่าคือซองยอล เช่นเดียวกับซองยอลที่จะตอบว่ามยองซู ความรักที่เหมือนการเสพสารอะไรสักอย่าง ที่ยิ่งเสพ ก็ยิ่งติดจนเลิกไม่ได้

ยิ่งรัก ก็ยิ่งหลง จนถอนตัวไม่ขึ้น………..

ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆสักคำให้ลึกซึ่ง ไม่ต้องบรรยายอะไรให้สวยเลิศเลอ ไม่ว่าอะไรมันคือเหตุผลที่ฉันนั้นรักเธอ แค่รู้ว่ารักเธอเท่านั้นพอ ……….

“Yes, I do”

“วู้ววววววววววววววววววววววว”

ทันทีที่ซองยอลพยักหน้า เหล่าบรรดานายแบบ นางแบบ รวมถึงโคดี้แบะสไตล์ลิสต่างปรบมือกันเสียงดังลั่นไปทั่วห้องแต่งตัว ทางด้านคู่รักหวานชื่นลืมโลกก็กอดกันแน่นด้วยความรัก



“ช่วยไม่ได้นะแทโอ นายทำตัวเอง”

อีกมุมของห้อง คงมีแค่คนเดียวที่ดูจะไม่แฮปปี้กับการขอแต่งงานที่เกิดขึ้นจนซองจงที่ยื่นอยู่ข้างๆอดแซธไม่ได้

“อย่าเล่นกับคนของคิมมยองซู”





ซองจงนึกย้อนไปถึงเหตุการเมื่อคืนที่อยู่ดีๆเขาก็ได้รับโทรศัพท์ด่วนจากพี่ชายคนสนิท

“อีซองจง พรุ่งนี้พี่จะขอซองยอลแต่งงาน ช่วยจัดให้พี่ได้เดินกับซองยอลหน่อย”

“โอคะ…….ฮะ พี่...พี่จะของพี่ซองยอลแต่งงานพรุ่งนี้!!! ไวไปป่ะพี่

“ก็มีคนจะมา steal พี่ก็ต้องรีบแสดงความเป็นเจ้าของก่อน





“เพราะต่อให้มัน steal ไปยังไง เจ้าของที่แท้จริงก็คือพี่”


“ได้ฮะ ผมจัดให้”




รู้ไว้ซะ อีซองยอล คือคนของคิมมยองซูคนเดียว








talk

โอยยยย ที่สุดของความมึนงง 55555555 ทุกคนว่ามันแป๊กไหมคะ เราคิดไม่ออกจริงๆจะให้คุณมยองซูหึงเบอร์ไหนมันถึงจะสาแก่ใจทุกท่าน // แจ้งข่าวบอกกล่าว Lip talk จะมีทั้งหมด 7 ตอนนะคะ อีก 2 ตอนก็จะจบแล้ว เราว่ามันกลายเป็น Mini series ไปแล้วแหละ ซึ่งเนื้อหามันเรื่องซ้ำบะ หึงๆหวงๆวนไป เราจึงขอให้มันสุดที่ 7 ตอนค่ะ ขอบคุณมากที่ให้ความรักกับ mini series นี้นะคะ มันได้รับผลตอบรับที่ดีเกินเราคาดไว้จริงๆ มีอะไรไม่ถูกใจมาบ่นใน #MYLiptalk ได้เลยนะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับวันสงกรานต์นะคะ ♥





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น